มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ

มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติเป็นมหาวิทยาลัยที่ตั้งขึ้นโดย " มูลนิธิฮั้วเคี้ยวป่อเต็กเซี่ยงตึ๊ง " ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลจีน ที่ใหญ่ที่สุดในสังคมไทย และนโยบายอันแน่วแน่ ที่จะส่งเสริมด้านการศึกษา เพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในโครงการ "รับใช้สังคมและพัฒนาการศึกษา" มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติมีประวัติในการจัดการศึกษามากว่า 50 ปี โดยมีพัฒนาการซึ่งแบ่งออก ได้เป็น 3 ระยะ คือ

พ.ศ. 2485 จัดตั้งโรงเรียนผดุงครรภ์อนามัย โรงพยาบาลหัวเฉียวมีวัตถุประสงค์เพื่อผลิตเจ้าหน้าที่ผดุงครรภ์ ให้มีความรู้ ความสามารถด้านการพยาบาล และการผดุงครรภ์ เพื่อนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่สังคม และประเทศชาติ

พ.ศ. 2525 คณะกรรมการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ตระหนักถึงภารกิจของรัฐบาล ในการพัฒนาประเทศ ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 4 ( พ.ศ. 2520 - 2524 ) จึงได้ขยายโรงพยาบาลหัวเฉียว เดิมให้เป็นโรงพยาบาลทั่วไป เปิดบริการรักษา และให้คำแนะนำแก่ผู้มาขอรับบริการทุกสาขาการแพทย์ พร้อมกับการขยายโรงเรียนผดุงครรภ์อนามัย ให้เป็นวิทยาลัยพยาบาล มีคณะพยาบาลศาสตร์ เปิดสอนหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาพยาบาลและผดุงครรภ์ และให้ชื่อวิทยาลัยว่า “ วิทยาลัยหัวเฉียวต่อมาได้เปิดคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์หลักสูตรสังคมสงเคราะห์ศาสตรบัณฑิตอีกคณะหนึ่ง

พ.ศ. 2533 เป็นวาระที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งดำเนินการมาครบรอบ 80 ปี มูลนิธิฯ ได้มีนโยบายแน่วแน่ ที่จะส่งเสริม และขยายขอบข่ายงานด้านการศึกษา ในระดับอุดมศึกษา และเพื่อทูลเกล้าทูลกระหม่อม ถวายเป็นพระราชกุศลและเฉลิมพระเกียรติ น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตฯ พระบรมราชินีนาถ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จึงมีมติให้ยกฐานะวิทยาลัยหัวเฉียวขึ้นเป็น “ มหาวิทยาลัย ” และได้รับอนุมัติจาก ทบวงมหาวิทยาลัย ให้จัดตั้งเป็นมหาวิทยาลัย และได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทาน ชื่อ “ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ ” เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2535 นับเป็นมิ่งมงคลสูงสุดแก่สถาบัน และมีความหมายต่อชาวจีนที่เข้ามา อยู่ใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารเป็นอย่างยิ่ง

"หัวเฉียว" หมายถึง ชาวจีนโพ้นทะเลและเป็นชื่อที่มูลนิธิฯ ใช้เป็นชื่อของโรงพยาบาลและวิทยาลัยของมูลนิธิฯ อยู่แล้ว

  • ปณิธาน
    “เรียนรู้เพื่อรับใช้สังคม”  มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ  จัดตั้งขึ้นด้วยปณิธานอันแน่วแน่ของมูลนิธิฮั่วเคี้ยวป่อเต็กเซี่ยงตึ๊งหรือมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณบรมกษัตริย์ไทย และมุ่งบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมด้วยการกระจายโอกาส สร้างความเสมอภาคในระดับอุดมศึกษา  ส่งเสริมวัฒนธรรมดีงามตามพื้นฐานพระพุทธศาสนาและบูชาคุณธรรมของบรรพชน

มหาวิทยาลัยนี้  เลื่อมใสในบทบาทความรู้รอบ รู้ลึก และความชำนาญงานอันเกื้อหนุนคุณภาพของทั้งบุคคลและสังคมประชาชาติ จึงมุ่งมั่นพัฒนาประสิทธิภาพของการศึกษานำไปสู่ความเป็นเลิศทางวิชาการ เพื่อสร้างสรรค์บัณฑิตที่รู้จริง ปฏิบัติงานได้จริง และแสวงหา สะสม ถ่ายทอดวิชาการอันเป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษย์ บัณฑิตของมหาวิทยาลัย  จักเป็นผู้ประกอบด้วยความรู้ควบคู่คุณธรรม  เป็นแบบฉบับสมบูรณ์ของปัญญาชนผู้พร้อมที่จะอุทิศตนรับใช้สังคม  เพื่อความผาสุกของเพื่อนร่วมโลกได้อย่างเต็มภาคภูมิ

  • วิสัยทัศน์
    มหาวิทยาลัยเพื่อสังคมที่เป็นศูนย์กลางการศึกษาด้านจีนศึกษาและวิทยาศาสตร์สุขภาพภายในปี 2575
  • อัตลักษณ์
    ๑. ยึดมั่นในคุณธรรม ๖ ประการ  คือ  ขยัน  อดทน  ประหยัด  เมตตา  ซื่อสัตย์  กตัญญู
    ๒. ปฏิบัติตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง  ๓  คุณลักษณะ  คือ  พอประมาณ  มีเหตุผล  และมีภูมิคุ้มกัน
    ๓. เรียนรู้เพื่อรับใช้สังคม
  • เอกลักษณ์มุ่งเน้นด้านจีน
    มี ๕ ด้าน ได้แก่ ด้านหลักสูตรการเรียนการสอน ด้านการวิจัย ด้านการบริการวิชาการ ด้านการทำนุบำรุง ศิลปวัฒนธรรมไทย-จีน  ด้านการประชาสัมพันธ์เผยแพร่และเป็นแหล่งข้อมูลในเรื่องความเป็นจีน